ขีดจำกัดที่ไร้ขีดจำกัด
ในวันที่ร่างกายที่เป็นของเรากลับไม่เป็นดั่งใจ จากดวงตาที่เคยมองเห็นแม้แต่ตัวอักษรที่เล็กที่สุดบนหน้าหนังสือกลับมืดสนิท หรือแม้แต่ขาที่เคยพาเราไปทุกที่ กลับกลายเป็นสิ่งที่เพิ่มความยากลำบากในการใช้ชีวิต เราจะทำอย่างไร หรือสงสัยไหมว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตกันอย่างไร… แต่ในความลำบากของร่างกายนั้น หากมีใครสักคน หรือที่ไหนสักแห่งเห็นคุณค่าของพวกเขา ให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ความสามารถที่มีสร้างประโยชน์ หรือพัฒนาสิ่งๆต่างๆ ที่เกิดประโยชน์กับบุคคล หรือสถานที่นั้นๆ พวกเขาคงจะรู้สึกภาคภูมิใจ และมีความหวังในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไป
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เห็นความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ จึงได้มีโครงการจ้างงานผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพ หรือผู้พิการ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่าอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการทั้งที่เป็นบุคลากรภายในและบุคลภายนอก และเพื่อเป็นการส่งต่อพลังบวกต่อผู้พิการที่ขาดความมั่นใจในคุณค่าหรือความสามารถของตนเอง
สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงขอเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานของพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยในที่นี้จะกล่าวถึง เป้าหมายที่ 8 “การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และมีผลิตภาพ รวมทั้งการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน” ซึ่งหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จนี้ ได้แก่ บรรลุการจ้างงานเต็มที่มีอย่างมีผลิตภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับหญิงและชายทุกคน รวมถึงเยาวชนและ ผู้มีภาวะทุพพลภาพ
(ข้อมูลอ้างอิงจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)

.
ขจัดอุปสรรคต่อการแสดงขีดความสามารถ อาคารที่เอื้อต่อคนพิการและทุกคน
.
อาคารที่เอื้อต่อคนพิการและทุกคน
เพราะผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการหวังที่จะสามารถเดินทางหรือการใช้ชีวิตในการทำงานได้อย่างสะดวก ซึ่งทางเดินสาธารณะหรืออาคารต่าง ๆ ส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังไม่รองรับหรือเอื้อประโยชน์ ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการจักต้องต้องพยายามดิ้นรนให้ตัวเองกระโดดขึ้นมามีคุณภาพชีวิตทัดเทียมกับคนอื่น จากงานวิจัย “หลักการออกแบบเพื่อ ทุกคน Universal Design ปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน” โดย รองศาสตราจารย์ไตรรัตน์ จารุทัศน์ หัวหน้าภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึง Universal Design หรือ การออกแบบเพื่อทุกคน ว่าเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อทุกคนทุก ๆ กลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงอายุ คนปกติ และผู้พิการ สร้างความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงพื้นที่การให้บริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายใจ



ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เห็นความสำคัญกับการจัดและดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการ ทั้งที่เป็นบุคลากรภายในไม่ว่าจะเป็นนิสิตหรือบุคลากร รวมทั้งบุคลภายนอก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างสะดวกสบาย โดยเริ่มต้นจากอาคารจามจุรี 5 ที่ได้รับการรองรับว่าเป็น อาคารที่เอื้อต่อคนพิการ พ.ศ. 2563 (รางวัลชมเชย) จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์
หอพักจุฬานิเวศน์ก่อนปรับปรุง
หอพักจุฬานิเวศน์หลังปรับปรุง
และการปรับปรุงหอพักจุฬานิเวศน์ เนื่องจากอาคารเก่าผิดกฎมายซึ่งอาคารที่สร้างมานานจะไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย และ ไม่มีบันไดหนีไฟ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
ทั้งนี้ทางจุฬาฯยังไม่หยุดการพัฒนาและปรับปรุงอาคารเพื่อเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและความใส่ใจในการเรียน, การทำงาน และการติดต่อกับจุฬาฯ ต่อไปในอนาคต
(ผังทางลาดและการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ ณ ปัจจุบัน ในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรในทุกภาคส่วน และส่งเสริมให้เกิดความหลากหลาย ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และได้รับการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย จึงได้กำหนดให้สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดูแลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรทุกกลุ่ม ดังนั้น หากมีความประสงค์จะแจ้งเรื่องราวต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายสิทธิประโยชน์และการดูแลทรัพยากรมนุษย์ สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ เบอร์โทร 02-218-0263
.
Disabled Access
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรามีการผลักดันให้ผู้พิการสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เทียบเท่ากับบุคลากรคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของนโยบาย สวัสดิการ รวมไปถึงความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยของ เช่น อาคาร ทางเดิน หรือพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ เราจึงมีการพัฒนาโครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยอ้างอิงตามระเบียบและมาตรฐานที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้พิการ
โดยเราเรียกพื้นที่เหล่านี้ว่า Disabled Access ซึ่งจะมีอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วย ทางข้ามถนน 86 จุด ทางลาดขึ้นทางเท้า 41 จุด จุดต่อเนื่องทางเท้ากับทางข้ามถนน 146 จุด ทางลาดภายในอาคาร 100 แห่ง และห้องน้ำเพื่อผู้พิการภายในอาคารอีก 36 แห่ง
ตัวอย่างของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานภายในมหาวิทยาลัย
ลักษณะทางลาดที่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
- ใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่ลื่น
- พื้นผิวระหว่างพื้นกับทางลาดต้องมีความต่อเนื่อง ไม่ทำให้สะดุด
- ต้องกว้าง 90 เซนติเมตร ขึ้นไป ถ้าเป็นเลนสวนสองทางต้องกว้าง 1.5 เมตร ขึ้นไป
- พื้นที่ว่างด้านหน้าของทางลาดต้องเป็นที่ว่าง ยาว 1.5 เมตรขึ้นไป
- 5. ทางลาดยาวช่วงละไม่เกิน 6 เมตร แต่ถ้าเกิน 6 เมตรจะต้องมีชานพักยาว 1.5 เมตรขึ้นไป ขั้นระหว่างช่วง




ทางลาดที่ไม่มีผนังกั้น ต้องยกขอบจากพื้น 10 เซนติเมตรขึ้นไป และต้องมีราวจับ หรือราวกันตก
ลักษณะของราวกันตก
- ทำด้วยวัสดุเรียบ แข็งแรง ไม่เป็นอันตรายต่อการจับ ไม่ลื่น ไม่มีเหลี่ยม
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร
- สูงจากพื้น 75-90 เซนติเมตร (วัดจากพื้นทางลาดจนถึงราวจับด้านบนสุด)
- ราวจับฝั่งผนัง ต้องห่างจากผนัง 4 เซนติเมตร ขึ้นไป ผนังบริเวณราวจับจะต้องเรียบ
- ราวจับจะต้องยาวต่อเนื่องกัน ถ้าไม่สามารถทำให้ยาวต่อเนื่องกันได้ ต้องมีระยะห่างไม่เกิน 5 เซนติเมตร


ลักษณะห้องน้ำผู้พิการตามมาตรฐาน
1.ต้องมีพื้นที่ว่างเพื่อให้ Wheel Chair หมุนกลับตัวได้ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เมตร ขึ้นไป
2.วัสดุปูพื้นต้องไม่ลื่น และพื้นในห้องน้ำต้องเสมอกับพื้นภายนอก
3.ข้างโถส้วมฝั่งที่ติดผนัง ต้องมีราวจับสำหรับพยุงตัว ทั้งแนวนอน และแนวดิ่ง (ราวทั้งสองอาจจะเป็นราวต่อเนื่องกันก็ได้)
3.1. ราวแนวนอน ต้องสูง 65-70 เซนติเมตร โดยปลายของราวต้องยื่นออกมาโดยวัดจากหน้าโถส้วมอีก 25-30 เซนติเมตร
3.2. ราวแนวดิ่ง ยื่นออกมาต่อจากส่วนปลายของราวแนวนอน โดยยาวขึ้นไปจากปลายแนวนอน 60 เซนติเมตร ขึ้นไป
4.ข้างโถส้วมฝั่งที่ไม่ติดผนัง มีราวจับแนวราบ หรือแนวดิ่งแบบพับเก็บได้ โดยเมื่อกางออกต้องล็อคได้ง่าย ยาว 55 เซนติเมตร ขึ้นไป ห่างจากขอบโถ 15-20 เซนติเมตร
5.มีระบบสัญญาณให้คนภายนอกแจ้งเหตุให้แก่ผู้พิการ และระบบให้ผู้พิการแจ้งเหตุเอง หรือเรียกคนช่วยได้
6.ประตูเป็นบานเลื่อน หรือบานเปิด ต้องเปิดค้าง 90 องศา มีราวจับแนวนอน มีป้ายผู้พิการ




นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการที่มีอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว Sidewalk Continuous level หรือ ระดับทางเท้า ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ยังถูกประเมินและจัดไว้ในระดับปานกลาง – สูงสุด ซึ่งหมายความว่าเป็นทางเท้าที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และมีสิ่งกีดขวางน้อย ลดอุปสรรคในการใช้งานแก่ทั้งผู้พิการ และบุคคลทั่วไป
